Direct to succress

                 Amazon.go

                เมื่อไม่กี่วันมานี้  มีการแชร์คลิปร้านค้าปลีกแนวใหม่ ของAmazon ที่ชื่อ Amazon.go  เป็นที่ฮือฮาพอสมควร  หลังจากนั้นก็มีข่าวร้านค้าแนวนี้หลายแห่ง ทั้งในญี่ปุ่นและก็ของไทย  ได้ข่าวว่าจะออกมาเหมือนกัน  ก็คือเราเข้าไปในร้าน Amazon.go   ก่อนเข้าต้องสแกนคิวอาร์โคัด จากมือถือของเราก่อน  เมื่อเข้าไปแล้ว ก็ทำการซื้อสินค้าเหมือนกับเข้าไปในห้างทั่วๆไป   เมื่อหยิบสินค้าได้ครบตามที่ต้องการใส่กระเป๋า  เราก็เดินออกได้เลย  ไม่มีพนักงานเก็บเงิน  ไม่มีใครมาตรวจสินค้าเรา  เพราะระบบจะทำงานคิดเงินเราโดยการสแกนสินค้าในกระเป๋าเรา และหักเงินจากบัตรเครดิต  หรือโทรศัพท์เรา เราก็สะดวกสบายในการซื้อสินค้า  ร้านค้าก็ไม่ต้องจ้างพนักงานเก็บเงิน  หรือพนักงานรักษาความปลอดภัย ไม่ต้องกลัวสินค้าหาย  หรือโดนขโมย  สามารถรู้ยอดสินค้าขายไป  สินค้าคงเหลือแบบทันที   โดยไม่ต้องมีพนักงานเช็คสต๊อก

 อาชีพพนักงานเก็บเงินหรือแคชเชียร์  เป็นอาชีพที่คนอเมริกันทำมากที่สุด เฉพาะห้างวอลมาร์ท ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา มี ห้าพันกว่าสาขา มีพนักงาน1.4 ล้านคนในอเมริกา  และ 2.2 ล้านคนทั่วโลก (วอลมาร์ทมีสาขาทั่วโลก)  เฉพาะพนักงานคิดเงินก็หลายแสนคนแล้วครับ  ยังไม่รวมร้านค้าประเภทอื่นๆอีก  จะมีคนตกงานอีกนับล้านๆคน ในญี่ปุ่นก็เริ่มมีร้านแบบนี้เหมือนกัน  ได้ข่าวว่าในไทย  ท๊อป ซุปเปอร์มาร์เก็ตก็เริ่มทำแล้วเหมือนกัน  ผมไปกินอาหารติ่มซำที่ประเทศจีน  เมื่อเดือนที่แล้ว  ที่โต๊ะนั่งเราจะมีคิวอาร์โค้ดประจำโต๊ะ  เราก็โหลดแอปของร้านอาหารมา  และสแกนคิวอาร์โค้ดโต๊ะเรา หลังจากนั้นก็คลิกเมนูจากในแอพพลิเคชั่น มือถือ เลือกอาหาร  สักพักก็จะมีพนักงานมาเสิร์ฟอาหารเราตามรายการที่สั่งไปในแอพพลิเคชั่น  เมื่อเวลาจ่ายตังส์ก็จ่ายโดยมือถือ อาลีเปย์  ของอาลีบาบากรุ๊ป  ที่แจ๊ค หม่า เป็นเจ้าของ  ในประเทศจีนตอนนี้การซื้อสินค้า สั่งสินค้า เริ่มใช้มือถือหรือเงินอิเล็กทรอนิกส์กันมากขึ้น  คนจีนที่มองว่าไม่ค่อยทันสมัย  ไม่ค่อยรู้เรื่องเทคโนโลยี  ตอนนี้ไปไกลกว่าเราเยอะมากครับ ลูกผมที่เรียนอยู่ที่จีน  เวลาซื้อของแม้กระทั่งไข่ไก่ 2 ฟองก็จ่ายด้วยมือถือ  เทคโนโลยีจะมาแทนที่แรงงาน  และจะมาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของเรา อีกมากมาย  เร็วกว่าที่ผมคิดเยอะเลยครับ ในเกาหลีใต้ ปีหน้าจะมีการนำรถแท็กซี่ไร้คนขับมาให้บริการในกรุงโซล  เมืองหลวงของเกาหลีแล้วครับ  เป็นที่แรกในโลก  อีกหน่อยรถแท๊กซี่ที่มีคนขับก็จะหายไปแล้วเราคนขายตรง จะทำอย่างไร  ตามความเห็นส่วนตัว (ของผม)  ผมคิดว่าขายตรงยังอยู่ได้แต่สินค้าต้องเป็นสินค้าที่มีความเฉพาะเจาะจง  ต้องการการอธิบาย  การขาย เป็นสินค้าที่มีนวัตกรรม  มีคุณค่า  ที่ไม่สามารถตั้งไว้แล้วมีคนมาซื้อได้  และคนขายต้องมีความรู้ในผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี  เช่นสินค้าเพื่อความงาม  เพื่อสุขภาพ  อาหารเสริมต่างๆ  คนขายเป็นมืออาชีพ  ซึ่งประกันมีครบถ้วนอยู่แล้ว  ไม่ต้องปรับตัวมากเหมือนคนขายตรง  ผมมองในมุมบวกว่ายิ่งเทคโนโลยีล้ำหน้ามากเท่าไหร่   คนขายตรงหรือขายประกันจะยิ่งดีขึ้น เพราะเราเป็นสินค้าที่ต้องมีการเผชิญหน้า  ต้องเจอตัวลูกค้า  ต้องการการอธิบาย  การกระตุ้น จูงใจให้ซื้อ  เป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ  เพื่อชีวิต  ซึ่งสินค้าเหล่านี้จะอยู่จนกว่าไม่มีมนุษย์บนโลกนี้   เพียงแต่เราต้องเป็นมืออาชีพให้มากขึ้น รู้จริงในอาชีพของเรา สินค้าของเรา  เราจะอยู่ได้อย่างสบาย  ไม่ว่าเทคโนโลยีจะไปไกลแค่ไหนก็ตาม ตรงกันข้ามเทคโนโลยีจะยิ่งช่วยทำให้สินค้าเราดีขึ้น  ช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้น  ไม่เหมือนอาชีพแคชเชียร์  คนขับแท็กซี่  หรืออีกหลายๆอาชีพที่จะตกงานในอนาคต  เนื่องจากเทคโนโลยีครับ  อาชีพขายตรง ขายประกัน อยู่ได้ไม่มีวันตกงาน จนกว่าโลกจะแตก  เชื่อเหมือนผมมั๊ยครับ


ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 1,860,027