สำนักข่าว Nh-news 8/8/2566 : “ดร.ฐัช หัชลีฬหา” คีย์แมนไฟแรงแห่ง J&C กับอีกหนึ่งบทบาทใหม่ในนามหอการค้าไทย

           “ดร.ฐัช หัชลีฬหาคีย์แมนไฟแรงแห่ง J&C

           กับอีกหนึ่งบทบาทใหม่ในนามหอการค้าไทย

            เพราะการเรียนรู้ไม่มีคำว่าสิ้นสุดสำหรับคีย์แมนหนุ่มไฟแรงผู้นี้ ดร.ฐัช หัชลีฬหาผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัท จอย แอนด์ คอยน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (J&C) ซึ่งนอกจากจะมีภาระหน้าที่สำคัญในฐานะผู้อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของการขับเคลื่อนพัฒนาแพลตฟอร์ม (J&C Platform) ให้เป็น Social Platform แพลตฟอร์มเพื่อสร้างอาชีพเพื่อสังคมที่สามารถเชื่อมโยงผู้ผลิต ผู้ขาย ผู้ซื้อในชุมชนให้มีผลประโยชน์ร่วมกันแบบเครือข่ายรูปแบบใหม่ภายใต้การทำร้านค้าสร้างอาชีพเพื่อชุมชน J&C imart ให้เป็นที่ประจักษ์ถึงความสำเร็จมาโดยตลอดแล้วก็ยังพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆที่เข้ามาให้เรียนรู้ได้อยู่เสมอโดยเฉพาะกับอีกหนึ่งบทบาทใหม่ในนามหอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทยที่ ดร.ฐัชได้เข้าไปมีส่วนร่วมทำงานอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC (Young Entrepreneur chamber of commerce) ของหอการค้าไทย ทั้งในตำแหน่งอนุกรรมการ YEC Thailand, ตำแหน่งกรรมการ YEC Connect International และตำแหน่งรองประธานกรรมการ YEC Digital Network 

            โดย ดร.ฐัชให้รายละเอียดถึงบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบว่า YEC (Young Entrepreneur chamber of commerce) เป็นการรวมกลุ่มของนักธุรกิจรุ่นใหม่ในนามหอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งเขารับผิดชอบดูแลอยู่หลายส่วนไม่ว่าจะเป็นในส่วน YEC กรุงเทพฯ ที่ทำงานร่วมกับคณะทำงานของหอการค้าไทยและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ชัชชาติ สิทธิพันธุ์) และในแต่ละเดือนจะมีการประชุมหารือเกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจ สังคมและเทคโนโลยีต่างๆร่วมกันกับภาครัฐและผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงการทำงานในคณะกรรมการการเชื่อมโยงผู้ประกอบการหอการค้าทั่วโลก หรือ YEC Connect ที่เป็นจุดเชื่อมต่อของนักธุรกิจไทยและต่างประเทศผ่านเครือข่ายหอการค้าทั่วโลก และการทำงานในส่วนที่เป็นการพัฒนาดิจิทัลของประเทศไทย YEC Digital Network

            อีกทั้งล่าสุดยังเป็นตัวแทนคณะทำงานเชื่อมโยงผู้ประกอบการหอการค้าทั่วโลกที่ได้รับเชิญให้ไปศึกษาดูงานในประเทศจีน จากการที่รัฐบาลจีนสนับสนุนทุนให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ได้เข้ามาศึกษาวิธีการพัฒนาประเทศจีนที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดภายใต้การอบรมสัมมนาตลอดระยะเวลา 15 วัน (ระหว่างวันที่ 11-27 กรกฎาคมที่ผ่านมา) ที่เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน โดยทางสถานทูตจีนประจำประเทศไทยเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกรายชื่อผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการนี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการขยายธุรกิจในประเทศจีนด้วยหรือไม่อย่างไร ซึ่งในส่วนนี้สำหรับ J&C ก็ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจไทยที่จดทะเบียนการค้าในเมืองกว่างโจวอย่างเป็นทางการจึงมีความเกี่ยวข้องโดยตรง

            ดร.ฐัช กล่าวว่า ตลอด 15 วันที่ได้เข้าร่วมการอบรมสัมมนาที่เมืองปักกิ่งก็จะเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมจีน และการดูงานทางด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ (Health Tech),เทคโนโลยี ทางการแพทย์ (Machine Learning), เทคโนโลยีหุ่นยนต์ (Robot) ในอุตสาหกรรมเครื่องจักรผลิตรถยนต์, เทคโนโลยีโรงงานที่ผลิตสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเดินทางไปเมืองเสิ่นหยาง (Shenyang) เมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง (Shenyang the capital of Liaoning Province) เพื่อร่วมพูดคุยหารือเกี่ยวกับการค้าการลงทุนระหว่างเมืองเสิ่นหยางกับประเทศไทยอีกด้วย คณะที่เดินทางไปดูงานครั้งนี้รวม 32 คนโดยผมเป็นตัวแทน YEC กรุงเทพฯ นอกจากจะพูดคุยการค้าการลงทุนระหว่างเมืองเสิ่นหยางกับประเทศไทยแล้วเรายังได้รับเกียรติได้เข้าพบผู้ว่ามณฑลเหลียวหนิง (Mr. Gu Zhaowen : Department of Commerce of Liaoning Province) เพื่อหารือร่วมกันทั้งในเรื่องการค้าการขยายธุรกิจและความร่วมมือในอนาคตระหว่างผู้ประกอบการไทยและเมืองเหลียวหนิงโดยผู้ว่ามณฑลเหลียวหนิงสนใจอยากนำสินค้าเข้ามาทำตลาดในไทยพร้อมกับเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบไทยได้เข้ามาขยายธุรกิจด้วยเช่นกัน และในเดือนสิงหาคมนี้ทางคณะผู้ประกอบการของเมืองเสิ่นหยางก็จะเดินทางมาดูงานที่กรุงเทพฯก็คาดว่าจะเกิดความร่วมมือที่ดีระหว่างกัน

            อย่างไรก็ดีจากการเป็นตัวแทน YEC กรุงเทพฯ เข้าร่วมเดินทางไปอบรมสัมมนาดูงานที่ประเทศจีนในครั้งนี้สำหรับ ดร.ฐัชมองว่าเป็นการได้เรียนรู้แนวทางการเปิดประเทศของจีนที่เปิดให้ต่างชาติโดยเฉพาะในอาเซียนได้เข้ามาลงทุนมากขึ้นสอดรับกับการสนับสนุนช่องทางการค้าระหว่างประเทศให้สามารถทำได้ง่ายขึ้นมาก เช่น การลดภาษี, การอำนวยความสะดวกในการขนส่ง, การมีเขตเศรษฐกิจพิเศษในการไม่เก็บภาษีเมื่อก่อตั้งบริษัทในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งนั่นหมายความว่าโอกาสในการเข้าไปทำธุรกิจในประเทศจีนก็มีมากขึ้น รวมถึงในส่วนของธุรกิจ J&C ที่ได้จดทะเบียนการค้าในเมืองกว่างโจวและมองโอกาสในการขยายธุรกิจร่วมกันกับเมืองเสิ่นหยางและมณฑลเหลียวหนิงไว้ด้วยเข่นกัน

Visitors: 1,860,105