ปฏิบัติการ

    MAXXONLINE 4.0

ความยิ่งใหญ่ของการจัดงาน THE HONOR # 5 เมื่อวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้า เจ.เจ.มอลล์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ของบริษัท แม็กซ์ อินเตอร์ เน็ตเวิร์ค จำกัด ( MAXX  INTER NETWORK ) ไม่เพียงแต่เป็นการจัดงาน เพื่อการเชิดชูเกียรติ หรือชื่นชมนักธุรกิจของ MAXX ที่ประสบความสำเร็จเพียงเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการจัดงานเพื่อการฉลองความสำเร็จแห่งความเป็นครอบครัวเดียวกันของชาว MAXX  INTER NETWORK ในโอกาสครบรอบ 3 ปีก้าวสู่ปีที่ 4 อย่างมั่นคงและยั่งยืนด้วย

ที่สำคัญ กับการจัดงาน THE HONOR # 5 ยังถือว่า เป็นการประกาศศักดาทางธุรกิจ และโชว์ศักยภาพความเป็นขายตรง MAXX พันธุ์แท้ในหลากหลายมิติ อาทิ การเปิดตัวสินค้าเทคโนโลยีใหม่ และการเปิดตัว MAXX ONLINE 4.0 ที่จะนำพา MAXX INTER NETWORK ก้าวสู่บัลลังก์‘ขายตรงพันล้าน’ได้ในปี 2560

            3 ปีแห่งความตั้งมั่น...3 ปีแห่งการแบ่งปัน...3 ปีแห่งความทุ่มเท...3 ปีแห่งความพยายามใช้ประสบการณ์...มันสมอง 2 มือ 2 เท้า ของคน 2 คน คู่หูนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแห่งยุค ‘ดร.ประกาสิต เลิศมุกดา’ และ ‘ดร. วรวุฒิ บริบูรณ์ธนกิจ’ ประธานกรรมการบริหาร กับการก้าวสู่ปีที่ 4 ในปี 2560 MAXX INTER NETWORK  วางแผนงานและกลยุทธ์ทางการตลาดไว้อย่างไร?...เพื่อการก้าวไกลไปสู่จุดหมาย ‘ขายตรงพันล้าน’...หนังสือ ‘เครือข่าย รายเดือน วิจารณ์’ มีคำตอบจากบทสัมภาษณ์ แบบคำต่อคำ ของ 2 ผู้บริหาร MAXX INTER NETWORK ผ่านการนำเนื้อหาเสนอขึ้นปกหนังสือฉบับนี้!!!

             “ตลอดระยะเวลา 3ปีที่ผ่านมา ในการดำเนินธุรกิจ MAXXมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีแรกของการดำเนินธุรกิจ MAXXสามารถปิดยอดขายได้ถึง 308 ล้านบาท, ปีที่สอง ยอดขยับขึ้นมาเป็น 600 ล้านบาท และในปี 2559 ที่ผ่านมา MAXXINTERสามารถปิดยอดขายได้ที่ 835 ล้านบาท ซึ่งหากดูอัตราการเติบโตแล้ว จะเห็นได้ว่า ธุรกิจขายตรง MAXXมีผลประกอบการเติบโตขึ้นในทุกปี  

            ปี 2560 MAXX INTER NETWORKได้วางนโยบายและยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนธุรกิจในหลายๆภาคส่วน ภายใต้สโลแกน ‘ปีแห่งความมหัศจรรย์แห่งนวัตกรรมความทันสมัยและการตลาด 4.0’ (the miracle of innovation modern and marketing 4.0)เพื่อให้อัตราการเติบโตยังคงอยู่ โดยภาคที่ชัดเจนที่สุด ก็คือ ‘การพัฒนาระบบออนไลน์’ (MAXX ONLINE 4.0)ซึ่ง MAXX มองเห็นความสำคัญของระบบ ONLINE มาตั้งแต่เริ่มแรก และมีการพัฒนาระบบออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง จนทุกวันนี้ MAXXมีระบบออนไลน์ที่สมบูรณ์แบบสุดๆ

MAXXมีคนเขียนโปรแกรมเป็นของตนเอง ทำให้มีการพัฒนาทางด้านโปรแกรมตลอดเวลา จากเดิมที่มีแอพพลิเคชั่น ที่เรียกว่า MAXX POWER แต่ปัจจุบันมีการพัฒนากลายเป็น MAXX ONLINE 4.0 ถือได้ว่า สอดรับกับนโยบาย ‘ไทยแลนด์ 4.0’ของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี อีกทั้งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา MAXXก็ได้สร้างระบบ OFFLINE ที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาแล้ว ฉะนั้นในปีนี้ MAXX ก็จะโฟกัสการทำตลาด ONLINE แบบครบวงจร

            นอกจากนี้ ยังจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยผลิตภัณฑ์ชนิดแรก เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของสกินแคร์ Regenaissance ที่จะนำเข้ามาจากประเทศเกาหลี สร้างกระแสสินค้าใหม่ โดยปล่อยผลิตภัณฑ์ออกมาเป็นชุด ตัวแรก เรียกว่า White nube Cream หรือ ‘ครีมเมฆ’ สินค้าที่เป็นมาตรฐานเกาหลี ส่วนตัวที่สอง เรียกว่า ageless Stickเป็นแท่งลิป ใช้ทาบริเวณที่มีริ้วรอย โดยทาแล้วมีเนื้อครีมที่ยกกระชับ และลดเลือนริ้วรอยที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และตัวที่สาม คือ CC CREAM ที่ MAXX ให้ทางเกาหลีมาทำวิจัยเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ ที่เหมาะสมกับผิวคนไทยโดยเฉพาะ จนในที่สุดก็ได้เป็นผลิตภัณฑ์Regenaissance

            สำหรับการทำตลาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินแคร์ Regenaissance นั้น ก็ได้มีการวางแผนงานเพื่อการทาบทามไอดอลของทางเกาหลีมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ กลุ่มสกินแคร์ Regenaissance ด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงการคัดเลือกตัวพรีเซ็นเตอร์ เพราะสินค้าตัวนี้ เป็นสินค้าที่นำเข้ามาจากเกาหลี จึงต้องใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นคนเกาหลี เพื่อสร้างกระแสให้กับผลิตภัณฑ์

            ในช่วงไตรมาสที่สอง MAXX ยังวางแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Sympectinซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากแอปเปิ้ล ซึ่งถือเป็นจุลลินทรีย์ที่ช่วยในระบบขับถ่าย และมีส่วนช่วยดูแลรูปร่างให้สมส่วน ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ไม่ใช่นวัตกรรมของไฟเบอร์

            ส่วนการควบคุม CI หรือ Corporate Identity ปีนี้คงชัดเจน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น ทั้งการออกแบบและโทนสีของสินค้า ยกตัวอย่าง เช่น ในไลน์ของกลุ่มบิวตี้ จะมีการใส่ Box Setอย่างสวยงาม โดย MAXX ยอมลงทุนในส่วนของแพ็คเก็จจิ้ง เพื่อให้เกิดความสวยงาม ซึ่งต่อไปก็จะเห็นสินค้าที่เป็น Box Set ในส่วนของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่จะเริ่มจำหน่ายในเร็ววันนี้ ที่สำคัญ MAXXยังได้มืออาชีพที่มาวาง CI ของบริษัทในทุกๆเรื่อง โดยไล่ตั้งแต่ภาพใหญ่ที่คนมองเห็นเป็นหลักก่อน

            นอกจากนี้ แผนงานในปี 2560 MAXXยังจะปรับโครงสร้างภายในบริษัทใหม่ โดยจะมีการจัดตั้ง 2 บริษัทไว้ใน 1 บริษัท บริษัทแรกที่เห็น ก็คือ บริษัท แม็กซ์ อินเตอร์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (MAXX INTER NETWORK) และอีกหนึ่งบริษัทที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คือ บริษัท แม็กซ์ พาวเวอร์ จำกัด ที่จะเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุน ในเรื่องเครื่องมือในการทำธุรกิจ การจัดงาน Event ต่างๆ ดูแลระบบพัฒนาสมาชิกและการฝึกอบรม และสถาบัน ‘แม็กซ์ อาคาเดมี่’ก็จะอยู่ภายใต้ บริษัท แม็กซ์ พาวเวอร์ จำกัด

            อย่างไรก็ดี หากดูสถานการณ์ธุรกิจขายตรงโดยรวม ณ ปัจจุบันแล้ว ก็ยังคงมีความน่าเป็นห่วง และอาจจะซึมยาวต่อ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ธุรกิจขายตรงค่อนข้างเงียบเหงามาก หลายๆบริษัทพยายามปลุกเร้าองค์กรให้มีความตื่นเต้นอย่างสม่ำเสมอ แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้ขยับตัวลำบาก ฉะนั้นในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทเครือข่ายใดที่ยังโฟกัสการทำธุรกิจแบบ Offlineจะประสบปัญหาหนักในการสร้างธุรกิจ จำต้องโฟกัสมาที่ ONLINE เป็นสำคัญ

            อย่างไรก็ตาม สำหรับบริษัทขายตรงของคนหัวสมัยใหม่แล้ว จะอยู่รอดปลอดภัยในการทำธุรกิจ แม้ว่า จะไม่เติบโตแบบหวือหวา แต่ก็สามารถเติบโตได้ แต่ถ้าบริษัทขายตรงใด ยังคงใช้รูปแบบการทำธุรกิจขายตรงแบบดั้งเดิม ก็จะเหนื่อยมาก ฉะนั้นจะต้องกล้าเปลี่ยนแปลง ถ้าจะให้วิเคราะห์กัน ก็บอกได้เลยว่า ในช่วงครึ่งปีแรก เป็นช่วงเวลาที่ขายตรงหลายค่ายเหนื่อยหนักมาก คำถาม ก็คือ แล้ว MAXX INTER NETWORKจะมีการปรับตัวอย่างไร

            ตอบ!ในฐานะผู้บริหาร เรา 2 คนมีความเชื่อมั่นว่า หาก MAXX เล่นONLINE เต็มรูปแบบ แต่ไม่ใช่จะทิ้ง OFFLINEนะ! เพราะแม้ว่า ONLINEจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการดึงดูดคนก็ตาม แต่ในทางกลับกัน ก็ไม่มีศักยภาพมากพอในการรักษาคนไว้ จึงต้องใช้ระบบ OFFLINE ในการรักษาฐานสมาชิก และหาก MAXX ทำได้ตามแผนงานที่วางไว้ เรา 2 คน ก็มีความมั่นใจ1,500 ล้านบาท อยู่ไม่ไกล MAXX INTER NETWORK เอื้อมมือถึง” ‘ดร.ประกาสิต-ดร.วรวุฒิ’ กล่าว

            ...................................................................................................................