เว็บข่าวเด่น ข่าวดัง ข่าวเฉพาะทางธุรกิจประกันภัย และธุรกิจขายตรง ที่ได้รับการสนับสนุนสูงสุด
คปภ. ร่วมกับ ตำรวจสอบสวนกลาง
แถลงผลการจับกุมคดี “บริษัท มายคาร์ เซอร์วิส พลัส 1989 จำกัด”
แอบอ้างขายประกันภัยรถยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต พบผู้เสียหายเกือบ 500 ราย
มูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท
สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(สำนักงาน คปภ.)
ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายที่ซื้อรถยนต์จากเต็นท์รถมือสองย่านบางแคและนนทบุรี
โดยผู้เสียหายแจ้งว่ามีการเสนอขายประกันภัยรถยนต์ จากบริษัท มายคาร์ เซอร์วิส พลัส
1989 จำกัด (บริษัท มายคาร์ฯ) สำนักงาน คปภ.
จึงได้ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย แต่ไม่พบว่าบริษัท มายคาร์ฯ
ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจประกันภัยแต่อย่างใด กลุ่มงานคดีจึงได้มีหนังสือให้บริษัท
มายคาร์ฯ
มาให้ข้อเท็จจริง
สำหรับกรณีที่กระทำการรับประกันภัยโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
ซึ่งบริษัท มายคาร์ฯ ได้ให้ข้อเท็จจริงว่า
ได้รับประกันคุณภาพของรถยนต์มือสองที่ลูกค้าซื้อจากเต็นท์ขายรถยนต์มือสอง
ซึ่งเป็นเต้นท์คู่สัญญากับบริษัท มายคาร์ฯ กว่า 20 แห่ง และมีอู่เครือข่ายกว่า 200
แห่ง
โดยให้ความคุ้มครองความเสียหายจากการเสื่อมคุณภาพของอะไหล่หรือเครื่องยนต์ตามรายการที่ระบุไว้ในเอกสารแนบท้ายตารางประกันสุขภาพรถยนต์
สูงสุด 300,000 บาท ซึ่งบริษัท มายคาร์ฯ
จะเรียกเก็บเงินค่าเบี้ยประกันคุณภาพสินค้าจากเต็นท์รถยนต์เป็นรายเดือน ตามตารางราคาในเอกสารประกอบการเสนอขาย
(โบรชัวร์)
โดยค่าเบี้ยประกันมีราคาตั้งแต่ 9,000 - 100,000
บาท บางรายจ่ายถึง 28,000 บาท
และเรียกเก็บจากลูกค้าที่มาต่ออายุสัญญาประกันคุณภาพสินค้า หลังจากนั้นบริษัท มายคาร์ฯ จะทำการออกเอกสารหน้าตารางประกันให้แก่ลูกค้า
“ตารางประกันสุขภาพรถยนต์/ตารางรับประกันคุณภาพรถยนต์ มือสอง” ปัจจุบันบริษัท มายคาร์ฯ
ได้มีการทำสัญญารับประกันคุณภาพรถยนต์ไปแล้วประมาณ 400 - 500 คัน
ซึ่งกลุ่มลูกค้าของบริษัท มายคาร์ฯ ได้แก่
กลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มือสองจากเต็นท์รถยนต์มือสองคู่สัญญา
และกลุ่มลูกค้าเก่าที่ขอต่ออายุสัญญา ภายหลังจากที่สัญญารับประกันคุณภาพสินค้าหมดลง
โดยบริษัท มายคาร์ฯ อ้างว่า การรับประกันคุณภาพรถยนต์มือสองดังกล่าวมีลักษณะเช่นเดียวกันกับการรับประกันคุณภาพสินค้าภายหลังการขาย
(Warranty)
สำนักงาน คปภ. พิจารณาแล้วเห็นว่า
การกระทำดังกล่าวมีลักษณะเป็นการทำสัญญาระหว่างบริษัท มายคาร์ฯ กับผู้ซื้อรถยนต์มือสอง โดยบริษัท มายคาร์ฯ ตกลงจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้ในกรณีวินาศภัยหากมีขึ้น
หรือเหตุอย่างอื่น ในอนาคตดังได้ระบุไว้ในสัญญา
และเต็นท์รถมือสองหรือผู้ซื้อรถยนต์ แล้วแต่กรณี เป็นผู้ส่งเงินจำนวนหนึ่งหรือที่เรียกว่า เบี้ยประกันภัย ให้แก่บริษัท
มายคาร์ฯ การกระทำดังกล่าว จึงมีลักษณะเป็นการรับประกันภัย ตามมาตรา 861
แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ซึ่งบริษัท มายคาร์ฯ มีฐานะเสมือนเป็น
“ผู้รับประกันภัย”
ส่วนเต็นท์ขายรถยนต์มือสองและผู้ซื้อรถยนต์
เสมือนเป็น “ผู้เอาประกันภัย” หรือ
“ผู้รับประโยชน์” ตามความในมาตรา 862 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แล้วแต่กรณี
เมื่อบริษัท มายคาร์ฯ ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจประกันภัย
ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันภัย การกระทำของบริษัท มายคาร์ฯ
จึงเป็นการรับประกันภัยโดยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย
อันเป็นความผิดตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 86 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง
5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000
บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 20,000 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ สำนักงาน คปภ. จึงได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568
ภายหลังจากการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษดังกล่าว
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ.
ได้เข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย 2 จุด ได้แก่ เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร
และอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมตรวจสอบเต็นท์จำหน่ายรถยนต์มือสองอีก 2
แห่ง ในย่านบางแคและนนทบุรี ผลการตรวจค้นพบว่าบริษัทมีลักษณะเป็นทาวน์โฮม
ไม่มีการประกอบธุรกิจจริงและได้ตรวจยึดเอกสารจำนวนมาก อาทิ ใบโฆษณา
ใบตรวจสภาพรถยนต์ สมุดคู่มือ และตารางกรมธรรม์ที่บริษัทจัดทำขึ้นเอง
โดยไม่เคยได้รับอนุญาตจากสำนักงาน คปภ. จากการตรวจสอบข้อมูลทางการเงิน
ยังพบการหมุนเวียนของเงินกว่า 30
ล้านบาท จากผู้เอาประกันจำนวน 259 ราย และเต็นท์รถยนต์ คู่สัญญา 52 ราย
โดยเงินถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของกรรมการ
ทั้งสามเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว
โดยไม่มีการกันเงินสำรองค่าสินไหมหรือจัดตั้งกองทุนความเสี่ยงตามหลักเกณฑ์ธุรกิจประกันภัย
ทำให้ผู้เสียหายเกือบ 500 ราย ได้รับความเสียหาย พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ.
จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำร้อง
ต่อศาล เพื่อขอหมายจับผู้กระทำความผิดทั้งสาม ในความผิดตามพระราชบัญญัติ ประกันวินาศภัย
พ.ศ. 2535 และ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568
สำนักงาน คปภ. โดยนายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ และนายจอม
จีระแพทย์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกฎหมายและคดี พร้อมด้วยผู้แทนสายกฎหมายและคดี
ได้เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปราม เพื่อร่วมแถลงผลการจับกุมผู้กระทำความผิด
ฐานความผิด “ร่วมกันเป็นผู้รับประกันภัยโดยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย
นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการซื้อประกันหรือการทำสัญญาประกันภัยทุกประเภทกับบริษัทหรือนิติบุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย
พร้อมย้ำว่าการทำประกันภัยทุกประเภทต้องเป็นกรมธรรม์ที่ออกโดยบริษัทประกันภัยที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน
คปภ. เท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของบริษัท หรือตัวแทน -
นายหน้าประกันภัย และเลขกรมธรรม์ได้ที่สำนักงาน คปภ. หรือ Line Official Account @OICConnect หรือสอบถามผ่าน สายด่วน คปภ. 1186
-
บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต ตระหนักดีว่าวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนในปัจจุบันจะให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้การค้นหาข้อมูลสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่หากเป็นการแชร์หรือส่งต่อมาจากแหล่งกำเนิดที่ให้ข้อมูลไม่ถูกต้องก็อาจส่งผลเสียต่อชีวิตและสุขภาพได้
OCEAN LIFE ไทยสมุทร โดยคุณระวิน มุคขจี (ที่ 2 จากซ้าย) Vice President – Customer Experience Management พร้อมผู้บริหาร จึงได้ร่วมมือกับ คุณเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร ผู้ช่วยจัดการอาวุโส กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เชื่อมต่อระบบสารสนเทศ "Persona Health สื่อเฉพาะคุณ" กับ OCEAN CONNECT ผ่าน Platform แอปพลิเคชัน OCEAN CLUB และ LINE OA @OCEANLIFE เพื่อเป็นสื่อกลางให้ลูกค้า และผู้ติดตาม OCEAN LIFE ไทยสมุทร จำนวนกว่า 3 ล้านคน เข้าถึงคลังข้อมูลสุขภาพเฉพาะบุคคล ที่มีการรวบรวมชุดความรู้ คู่มือ และสื่อรณรงค์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของ สสส. กว่า 10,000 ชิ้น ที่ผ่านการคัดกรอง มีความถูกต้องและเชื่อถือได้ นำมาจัดกลุ่ม ให้เหมาะสมกับข้อมูลด้านสุขภาพแต่ละบุคคล เช่น กลุ่มเพศ อายุ ประเด็นสุขภาพ โรคประจำตัว การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย เพื่อนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงตามแนวคิด Healthiverse ที่ต้องการนำคนไทยสู่โลกใหม่ที่ดีขึ้น เพื่อคนรักสุขภาพ
OCEAN LIFE ไทยสมุทร ตอกย้ำการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยพลังความรัก OCEAN LIFE Love Mindset ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ Love Your Health สนับสนุนให้คนไทยรักสุขภาพ ช่วยคนไทยไม่ให้ป่วย โดยจะส่งเสริมการดูแลสุขภาพครอบคลุมทั้งสุขภาพกายใจ ด้วยการพัฒนา Solution ด้านสุขภาพ ทั้งผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ นวัตกรรมสุขภาพ และบริการต่าง ๆ ครบวงจร พร้อมการวางแผนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
ร่วมติดตามข่าวสาร และกิจกรรมดีๆ ได้ที่ OCEAN CLUB APP / LINE / Facebook / Instagram / Youtube : oceanlife เว็บไซต์ www.ocean.co.th หรือติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 0 2207 8888
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน OCEAN CLUB ได้ที่ https://www.ocean.co.th/download-ocean-club-app
หรือแอดไลน์ @OCEANLIFE ได้ที่ https://oceanlifeth.co/addline23
-
ทิพยประกันภัย จับมือ กองทุนการออมแห่งชาติ ลงนามบันทึกข้อตกลงส่งเสริมความรู้ความเข้าใจให้กับสมาชิกกองทุนฯ ด้านการวางแผนการออมเงินและด้านการวางแผนการประกันภัย
นางสาวสุภาพ ประดับการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการขายและการตลาด 1 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจด้านการวางแผนการออม และด้านการวางแผนการประกันภัยแก่สมาชิกกองทุนฯ เสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและการจัดการความเสี่ยงภัยต่างๆ ให้กับสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ ณ กองทุนการออมแห่งชาติ อาคาร เอส เอ็ม ทาวเวอร์ -
ไทยประกันชีวิต จับมือโรงพยาบาลพญาไท 1 จัดสัมมนา “ปลดล็อกสมองเสื่อม ยืดอายุสมอง ถนอมความทรงจำ”
นายนิติพงษ์ ปรัชญานิมิต รองผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และนายแพทย์ อภิรักษ์ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 1 ร่วมเปิดงานสัมมนาหัวข้อ “ปลดล็อกสมองเสื่อม ยืดอายุสมอง ถนอมความทรงจำ” ซึ่งจัดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับลูกค้าไทยประกันชีวิตที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงานผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต โดยมี นายแพทย์ วีรชัย ก่ำน้ำผึ้ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาทโรงพยาบาลพญาไท 1 เป็นวิทยากรให้ความรู้ ณ โรงพยาบาลพญาไท 1
ไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่ขยายความคุ้มครองครอบคลุมโรคอัลไซเมอร์ในทุกระยะโดยไม่คิดเบี้ยประกันภัยเพิ่มผ่านสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ “ไทยประกันชีวิต พร้อมเพย์ 108 โรคร้าย” สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดแบบประกันเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://product.thailife.com หรือสอบถามตัวแทนฯ ไทยประกันชีวิต หรือโทร. 1124
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments