เว็บข่าวเด่น ข่าวดัง ข่าวเฉพาะทางธุรกิจประกันภัย และธุรกิจขายตรง ที่ได้รับการสนับสนุนสูงสุด

บอร์ด คปภ. เห็นชอบให้นายทะเบียนสั่ง “เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต” ห้ามเคลื่อนย้ายทรัพย์สินและเพิ่มทุนพร้อมนำส่งงบการเงินโดยเร็ว

 @และยังเห็นชอบให้นายทะเบียนสั่ง “เคดับบลิวไอ ประกันภัย” หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวด้วย

ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่                  22 พฤษภาคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แก้ไขฐานะและการดำเนินการ             ตามที่นายทะเบียนกำหนดเพิ่มเติม ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 13/2568

ตามที่นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2)      พ.. 2551 ประกอบมติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567               จึงออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 36/2567 เรื่อง ให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แก้ไขฐานะและการดำเนินการตามที่นายทะเบียนกำหนดตามมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2) พ.. 2551 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.. 2567 โดยได้กำหนดให้บริษัทดำเนินการและห้ามดำเนินการ                  รวมถึงจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว และดำเนินการอื่นใดเพื่อให้บริษัทได้รับเงิน แบ่งออกเป็นห้างวด เพื่อแก้ไขปัญหาฐานะการเงิน และการดำเนินการ

ต่อมา เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 บริษัทได้มีหนังสือขอขยายระยะเวลาการเพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้วและดำเนินการอื่นใดเพื่อให้บริษัทได้รับเงินตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 36/2567 และนายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของ คปภ. ได้มีคำสั่งนายทะเบียนที่ 44/2567 เรื่อง ขยายระยะเวลาให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แก้ไขฐานะและการดำเนินการตามที่นายทะเบียนกำหนดตามมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2)
.. 2551 ลงวันที่ 26 ธันวาคม พ.. 2567 และคำสั่งนายทะเบียนที่ 7/2568 เรื่อง ขยายระยะเวลาให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แก้ไขฐานะและการดำเนินการตามมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ลงวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2568 เฉพาะในส่วนการเพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้วและดำเนินการอื่นใดเพื่อให้บริษัทได้รับเงินไม่น้อยกว่าจำนวน 95 ล้านบาท ตามข้อ 1 (1) และไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท ตามข้อ 1 (2) ตามลำดับโดยขยายระยะเวลาให้บริษัทดำเนินการแล้วเสร็จจากเดิมภายในวันที่ 20 ธันวาคม 2567 เป็นภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568  ซึ่งบริษัทดำเนินการเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายทะเบียนได้พบกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเพิ่มเติม ดังนี้

(1) บริษัทมิได้ยื่นงบการเงิน รายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและกิจการ และรายงานการดำรงเงินกองทุนสำหรับงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และงวดไตรมาส 1 ปี 2568 ที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและแสดงความเห็นแล้วภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด      อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 27/5 และมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับข้อ 9 (1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ในการจัดทำและยื่นงบการเงินของบริษัทประกันชีวิต พ.. 2566 ความในข้อ 7 (1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ในการจัดทำ และยื่นรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและกิจการของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2566 และความในข้อ 6/1 (1) และ 6/3 (1) แห่งประกาศนายทะเบียน เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการดำรงเงินกองทุนของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2564 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเป็นเหตุให้ไม่สามารถประเมินได้ว่าบริษัทนั้นมีฐานะการเงินและการดำเนินงานที่มั่นคง เป็นไปตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำรงเงินกองทุนและสินทรัพย์สภาพคล่อง การจัดสรรเงินสำรอง การจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัยการรายงานและการรับรองการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย การประเมินราคาทรัพย์สินและหนี้สิน

         (2) บริษัทมีการให้กู้ยืมโดยมีอสังหาริมทรัพย์เป็นประกันให้กับกิจการซึ่งมีกรรมการที่เกี่ยวข้องกันกับบริษัท โดยมิได้           ขออนุญาตจากนายทะเบียน อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.. 2535 ประกอบข้อ 20     แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง การลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2556   และเป็นเหตุให้เงินที่ให้กู้ยืมดังกล่าว ซึ่งเดิมนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของจะถูกคำนวณเป็นรายการหักในเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ ตามข้อ 9 (1) (ข) 5) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย       เรื่อง กำหนดประเภทและชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันชีวิต พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลให้เงินกองทุนของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นเหตุให้ปรากฏข้อเท็จจริงจากการประมาณการฐานะการเงินงวดเดือนพฤษภาคม 2568 บริษัทจะมีระดับเงินกองทุนต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด และมีแนวโน้ม Tier 1 ratio ที่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดตั้งแต่เดือนเมษายน 2568  

         (3) บริษัทมิได้จัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัยตามมาตรา 27/4 ให้ครบถ้วน                  ตามที่กฎหมายกำหนด

ต่อมาบริษัทได้มีหนังสือที่ KWILC103/2025 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ถึงนายทะเบียน เพื่อรายงานความคืบหน้าการแก้ไขฐานะและการดำเนินการ ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 36/2567 สรุปได้ว่า บริษัทจะได้รับเงินจำนวน 40 ล้านบาท ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 เพื่อแก้ไขฐานะการเงินและการดำเนินการของคำสั่งนายทะเบียนข้างต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทมีพฤติกรรมขอถอนเงินสดออกจากบริษัทเป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ โดยไม่ระบุรายละเอียดชัดเจนว่าเพื่อใช้ดำเนินธุรกิจในส่วนใด                  ทั้งที่บริษัทมีฐานะการเงินและการดำเนินการยังไม่ดีขึ้น

จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏดังกล่าวข้างต้น แสดงให้เห็นว่า การกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและพฤติกรรมดังกล่าวข้างต้นของบริษัทเป็นเหตุให้ไม่สามารถประเมินได้ว่าบริษัทนั้นมีฐานะและการดำเนินการที่มั่นคง เป็นไปตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำรงเงินกองทุนและสินทรัพย์สภาพคล่อง การจัดสรรเงินสำรอง การจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพัน  ตามสัญญาประกันภัย การรายงานและการรับรองการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย การประเมินราคาทรัพย์สินและหนี้สิน ดังนั้น จึงถือได้ว่าบริษัทมีฐานะหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ตามข้อ 5 (3) (4) และ (14) แห่งประกาศนายทะเบียน เรื่อง กำหนดกรณีที่ถือว่าบริษัทประกันชีวิตมีฐานะหรือ                        การดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย พ.ศ. 2567

เพื่อให้การกำกับดูแลและติดตามการแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการของบริษัทเป็นไปอย่างรอบด้าน ครอบคลุม                 ทั้งการติดตามความมั่นคงทางการเงิน รวมถึงป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยและประชาชน ประกอบกับเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ประโยชน์สาธารณะ

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ.2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 ประกอบมติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย                         ในการประชุมครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม                การประกอบธุรกิจประกันภัย จึงมีคำสั่งให้บริษัทดำเนินการเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว หรือดำเนินการใดเพื่อให้ได้รับเงิน ไม่น้อยกว่าจำนวน 40 ล้านบาท เพื่อให้บริษัทดำรงเงินกองทุนเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568

ข้อ 2 จัดสรรเงินสำรองตามมาตรา 23 และจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัยตามมาตรา 27/4 ให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งนี้

ข้อ 3  ยื่นงบการเงินและรายงานทางการเงินดังต่อไปนี้ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งนี้

(1)  งบการเงินสำหรับรอบปีปฏิทิน พ.. 2567 ที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและแสดงความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข หรือแบบมีเงื่อนไข ในลักษณะที่ไม่เป็นเหตุให้บริษัทมีฐานะการเงินหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย               แก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน

(2)  รายงานการดำรงเงินกองทุนประจำปี 2567 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี

(3)  งบการเงินรายไตรมาส 1 ปี 2568 ที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้ว

(4)  รายงานการดำรงเงินกองทุนรายไตรมาส 1 ปี 2568 ที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้ว

(5)  รายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและกิจการ รอบเดือนมกราคม เดือนกุมภาพันธ์ และรายไตรมาส 1 ปี 2568               ให้ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริงและเชื่อถือได้

ข้อ 4 ปรับปรุงการบันทึกรายการบัญชีให้ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริง เชื่อถือได้ และเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชี                 ที่รับรองโดยทั่วไป

ข้อ 5 ให้เรียกคืนเงินให้กู้ยืมจากการทำสัญญาให้กู้ยืมโดยมีอสังหาริมทรัพย์เป็นประกันให้กับกิจการซึ่งมีกรรมการ                   ที่เกี่ยวข้องกันกับบริษัทโดยมิได้ขออนุญาตจากนายทะเบียน ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 หากผู้กู้ยืมไม่คืนเงินภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้บริษัทดำเนินการตามกฎหมายกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นประกันทันที

ข้อ 6 ห้ามมิให้กรรมการ พนักงาน และลูกจ้างของบริษัทสั่งจ่ายเงินของบริษัท หรือทำการเคลื่อนย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัท เว้นแต่เป็นการจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้างแก่พนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทตามปกติ สำหรับการจ่ายเงินอื่นให้เป็นไปตามที่นายทะเบียนกำหนด

นอกจากการดำเนินการข้างต้น บริษัทยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งนายทะเบียนที่ 36/2567 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง                 ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินงานตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 36/2567 เรื่อง ให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แก้ไขฐานะและการดำเนินการตามที่นายทะเบียนกำหนด ตามมาตรา 53 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ 2) พ.. 2551 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.. 2567 หรือตามเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งที่กำหนดเพิ่มเติมไว้ในคำสั่งนี้ ได้อย่างครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น หรือปรากฏข้อเท็จจริงว่าบริษัทมีการดำเนินการที่อาจเข้าข่ายการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพิ่มเติม หรือนายทะเบียนพิจารณาแล้วเห็นว่า หากรอให้          ครบกำหนดระยะเวลาที่กำหนดข้างต้นอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยดำเนินการตามมติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย             ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 และหากบริษัทไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่ง

สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท สำนักงาน คปภ. จะตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป          หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ การออกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว     จะไม่กระทบในส่วนของความคุ้มครองและการได้รับชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทนของผู้ประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยที่มี      ต่อบริษัท โดยบริษัทยังมีหน้าที่ดูแลผู้เอาประกันภัย/ประชาชนเป็นไปตามข้อกำหนดแห่งสัญญาประกันภัยทุกประการ                 หากผู้เอาประกันภัย/ประชาชนมีข้อสงสัยหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ติดต่อได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ www.oic.or.th

     และยังเห็นชอบให้นายทะเบียนสั่ง “เคดับบลิวไอ ประกันภัย” หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว

            ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่            22 พฤษภาคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 12/2568 ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ได้ปรากฏพฤติการณ์และหลักฐานต่อ      นายทะเบียนว่า บริษัท เคดับบลิวไอ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดในกรณี ดังต่อไปนี้

            (1) ไม่จัดสรรเงินสำรองตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม                   โดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด

            (2) ไม่ยื่นงบการเงิน สำหรับรอบปีปฏิทิน พ.ศ. 2567 ที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและแสดงความเห็นแล้ว ภายในสี่เดือน     นับแต่วันสิ้นสุดรอบปีปฏิทิน อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 47 (2) แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบข้อ 9 (1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ในการจัดทำและยื่นงบการเงินของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2566

            (3) ไม่ยื่นรายงานการดำรงเงินกองทุนประจำปี 2567 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี ภายในสี่เดือนนับแต่วันสิ้นปีปฏิทิน อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 27/5 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบข้อ 6/1 (1) และข้อ 6/3 (1) แห่งประกาศนายทะเบียน         เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการดำรงเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2564 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

            (4) ไม่ยื่นรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและกิจการ รายเดือนมกราคม และเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2568 ภายในสิ้นเดือนถัดไป อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบข้อ 7 (3) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ในการจัดทำและยื่นรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและกิจการของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2566

            (5) ไม่ยื่นงบการเงินรายไตรมาส 1/2568 ที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้วภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันสุดท้ายของไตรมาส   อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 47 (1) แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบข้อ 9 (2) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลา ในการจัดทำและยื่นงบการเงินของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. 2566

            นอกจากนี้ บริษัทได้ทำข้อตกลงกับบริษัทแห่งหนึ่งโดยบริษัทดังกล่าวตกลงสนับสนุนทางการเงินเพื่อให้บริษัทนำไปชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามคำพิพากษาเมื่อคดีถึงที่สุด และตั้งเป็นรายการลูกหนี้จากการโอนภาระหนี้สิน (Transfer Liability)         แต่ปัจจุบันมีข้อบ่งชี้เกี่ยวกับการด้อยค่า เนื่องจากบริษัทดังกล่าวมีฐานะการเงินที่มีความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานต่อเนื่อง (Going concern) จากผลขาดทุนสุทธิ จึงไม่มีความสามารถในการชำระหนี้หรือสนับสนุนทางการเงินแก่     กลุ่มบริษัทได้ และแม้ว่าบริษัทจะมีแผนในการขายกิจการหรือหาผู้ร่วมลงทุนรายใหม่ แต่บริษัทยังคงต้องชำระหนี้ที่ถูกฟ้องร้องค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เนื่องจากบริษัทดังกล่าวอาจไม่ให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับกรณีดังกล่าวอีกต่อไป จึงควรต้องบันทึกรายการค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ทำให้มีความเสี่ยงที่อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนอาจจะต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด แต่บริษัทไม่ดำเนินการ ทำให้ฐานะการเงิน

ของบริษัทไม่น่าเชื่อถือ

            จากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น เป็นเหตุให้ไม่สามารถประเมินได้ว่าบริษัทมีฐานะและการดำเนินการที่มั่นคง เป็นไปตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำรงเงินกองทุน และสินทรัพย์สภาพคล่อง การจัดสรรเงินสำรอง การจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัย การรายงานและการรับรองการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย การประเมินราคาทรัพย์สินและหนี้สิน นายทะเบียนจึงเห็นว่า บริษัทมีฐานะหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ตามข้อ 5 (3) (4) และ (14) แห่งประกาศนายทะเบียน เรื่อง กำหนดกรณีที่ถือว่าบริษัทประกันวินาศภัย          มีฐานะหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย พ.ศ. 2567 เพื่อให้การกำกับดูแลและติดตามการแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการของบริษัทเป็นไปอย่างรอบด้าน ครอบคลุมทั้งการติดตามความมั่นคงทางการเงิน         

            รวมถึงป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยและประชาชน ประกอบกับเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไป จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ประโยชน์สาธารณะ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 52 วรรคหนึ่ง         แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ประกอบกับ มติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ในการประชุมครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่               22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 นายทะเบียน ด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จึงมีคำสั่งให้บริษัทดำเนินการ ดังต่อไปนี้

            ข้อ 1 หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว

            ข้อ 2 นำส่งแผนการแก้ไขฐานะการเงินต่อสำนักงาน คปภ. รวมทั้งแก้ไขฐานะการเงินให้เพียงพอต่อภาระผูกพัน และ  ดำรงเงินกองทุนให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากนายทะเบียนหรือผู้สอบบัญชีหรือบริษัทตรวจพบ

            ข้อ 3 ให้บริษัทจัดสรรเงินสำรองตามมาตรา 23 และจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัยตามมาตรา 27/4 ให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งนี้

            ข้อ 4 ให้บริษัทปรับปรุงการบันทึกรายการบัญชีให้ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริงและเชื่อถือได้ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งนี้

            ข้อ 5 ให้บริษัทยื่นงบการเงินและรายงานทางการเงินดังต่อไปนี้ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งนี้

            (1) งบการเงินสำหรับรอบปีปฏิทิน พ.ศ. 2567 ที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและแสดงความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข หรือแบบมีเงื่อนไข ในลักษณะที่ไม่เป็นเหตุให้บริษัทมีฐานะการเงินหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน

            (2) รายงานการดำรงเงินกองทุนประจำปี 2567 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี

            (3) งบการเงินรายไตรมาส 1/2568 ที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้ว

            (4) รายงานการดำรงเงินกองทุนรายไตรมาส 1/2568 ที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้ว

            (5) รายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและกิจการ รอบเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และรายไตรมาส 1/2568 ที่ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริงและเชื่อถือได้

            ข้อ 6 ให้บริษัทจัดทำรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามคำสั่งนี้ และนำส่งต่อนายทะเบียนทุก 7 วันจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

            ข้อ 7 ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการตามคำสั่งนายทะเบียนนี้ได้อย่างถูกต้องครบถ้วนตามเงื่อนไขที่กำหนดข้างต้น หรือปรากฏข้อเท็จจริงว่า บริษัทมีการดำเนินการที่อาจเข้าข่ายการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพิ่มเติม หรือนายทะเบียนพิจารณาแล้วเห็นว่า หากรอให้ครบกำหนดระยะเวลาที่กำหนดข้างต้นอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อ    ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน นายทะเบียนจะดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ต่อไป

            อนึ่ง ตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 บัญญัติให้เมื่อนายทะเบียนมีคำสั่งให้บริษัท       หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ห้ามมิให้กรรมการ พนักงานและลูกจ้างของบริษัทสั่งจ่ายเงินของบริษัท หรือทำการเคลื่อนย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัท เว้นแต่เป็นการจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้างแก่พนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทตามปกติ สำหรับการจ่ายเงินอื่นให้เป็นไปตามที่นายทะเบียนกำหนด รวมถึงให้บริษัทรายงานเป็นหนังสือให้นายทะเบียนทราบถึงบรรดาเจ้าหนี้และลูกหนี้ทั้งหมดของบริษัทภายในระยะเวลาที่นายทะเบียนกำหนด

            ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินการตามคำสั่งนายทะเบียนนี้ข้อใดข้อหนึ่งได้อย่างครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น หรือปรากฏข้อเท็จจริงว่า บริษัทมีการดำเนินการ  ที่อาจเข้าข่ายการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพิ่มเติม หรือนายทะเบียนพิจารณาแล้วเห็นว่า หากรอให้ครบกำหนดระยะเวลาที่กำหนดข้างต้นอาจก่อให้เกิด  ความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน นายทะเบียนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

            สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท สำนักงาน คปภ. จะตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป    หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ การออกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าวจะไม่กระทบในส่วนของความคุ้มครองและการได้รับชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทนของผู้ประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยที่มีต่อบริษัท โดยบริษัทยังมีหน้าที่ดูแลผู้เอาประกันภัย/ประชาชนเป็นไปตามข้อกำหนดแห่งสัญญาประกันภัยทุกประการ            หากผู้เอาประกันภัย/ประชาชนมีข้อสงสัยหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ติดต่อได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ www.oic.or.th 



A black background with a black square

AI-generated content may be incorrect.


  • บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต ตระหนักดีว่าวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนในปัจจุบันจะให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้การค้นหาข้อมูลสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่หากเป็นการแชร์หรือส่งต่อมาจากแหล่งกำเนิดที่ให้ข้อมูลไม่ถูกต้องก็อาจส่งผลเสียต่อชีวิตและสุขภาพได้
    OCEAN LIFE ไทยสมุทร โดยคุณระวิน มุคขจี (ที่ 2 จากซ้าย) Vice President – Customer Experience Management พร้อมผู้บริหาร จึงได้ร่วมมือกับ คุณเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร ผู้ช่วยจัดการอาวุโส กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เชื่อมต่อระบบสารสนเทศ "Persona Health สื่อเฉพาะคุณ" กับ OCEAN CONNECT ผ่าน Platform แอปพลิเคชัน OCEAN CLUB และ LINE OA @OCEANLIFE เพื่อเป็นสื่อกลางให้ลูกค้า และผู้ติดตาม OCEAN LIFE ไทยสมุทร จำนวนกว่า 3 ล้านคน เข้าถึงคลังข้อมูลสุขภาพเฉพาะบุคคล ที่มีการรวบรวมชุดความรู้ คู่มือ และสื่อรณรงค์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของ สสส. กว่า 10,000 ชิ้น ที่ผ่านการคัดกรอง มีความถูกต้องและเชื่อถือได้ นำมาจัดกลุ่ม ให้เหมาะสมกับข้อมูลด้านสุขภาพแต่ละบุคคล เช่น กลุ่มเพศ อายุ ประเด็นสุขภาพ โรคประจำตัว การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย เพื่อนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงตามแนวคิด Healthiverse ที่ต้องการนำคนไทยสู่โลกใหม่ที่ดีขึ้น เพื่อคนรักสุขภาพ
    OCEAN LIFE ไทยสมุทร ตอกย้ำการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยพลังความรัก OCEAN LIFE Love Mindset ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ Love Your Health สนับสนุนให้คนไทยรักสุขภาพ ช่วยคนไทยไม่ให้ป่วย โดยจะส่งเสริมการดูแลสุขภาพครอบคลุมทั้งสุขภาพกายใจ ด้วยการพัฒนา Solution ด้านสุขภาพ ทั้งผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ นวัตกรรมสุขภาพ และบริการต่าง ๆ ครบวงจร พร้อมการวางแผนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
    ร่วมติดตามข่าวสาร และกิจกรรมดีๆ ได้ที่ OCEAN CLUB APP / LINE / Facebook / Instagram / Youtube : oceanlife เว็บไซต์ www.ocean.co.th หรือติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 0 2207 8888
    ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน OCEAN CLUB ได้ที่ https://www.ocean.co.th/download-ocean-club-app
    หรือแอดไลน์ @OCEANLIFE ได้ที่ https://oceanlifeth.co/addline23
  • ทิพยประกันภัย จับมือ กองทุนการออมแห่งชาติ ลงนามบันทึกข้อตกลงส่งเสริมความรู้ความเข้าใจให้กับสมาชิกกองทุนฯ ด้านการวางแผนการออมเงินและด้านการวางแผนการประกันภัย

    นางสาวสุภาพ ประดับการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการขายและการตลาด 1 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจด้านการวางแผนการออม และด้านการวางแผนการประกันภัยแก่สมาชิกกองทุนฯ เสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและการจัดการความเสี่ยงภัยต่างๆ ให้กับสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ ณ กองทุนการออมแห่งชาติ อาคาร เอส เอ็ม ทาวเวอร์
  • ไทยประกันชีวิต จับมือโรงพยาบาลพญาไท 1 จัดสัมมนา “ปลดล็อกสมองเสื่อม ยืดอายุสมอง ถนอมความทรงจำ”

    นายนิติพงษ์ ปรัชญานิมิต รองผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และนายแพทย์ อภิรักษ์ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 1 ร่วมเปิดงานสัมมนาหัวข้อ “ปลดล็อกสมองเสื่อม ยืดอายุสมอง ถนอมความทรงจำ” ซึ่งจัดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับลูกค้าไทยประกันชีวิตที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงานผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต โดยมี นายแพทย์ วีรชัย ก่ำน้ำผึ้ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาทโรงพยาบาลพญาไท 1 เป็นวิทยากรให้ความรู้ ณ โรงพยาบาลพญาไท 1
    ไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่ขยายความคุ้มครองครอบคลุมโรคอัลไซเมอร์ในทุกระยะโดยไม่คิดเบี้ยประกันภัยเพิ่มผ่านสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ “ไทยประกันชีวิต พร้อมเพย์ 108 โรคร้าย” สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดแบบประกันเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://product.thailife.com หรือสอบถามตัวแทนฯ ไทยประกันชีวิต หรือโทร. 1124
#1 โดย: นายประหยัดสุขอ้วน [IP: 182.232.77.xxx]
เมื่อ: 2021-07-21 17:49:49
นายประหยัดสุขอ้วน
#2 โดย: ประหยัดสุขอ้วน [IP: 182.232.85.xxx]
เมื่อ: 2021-07-24 16:02:08
นายประหยัดสุขอ้วน
#3 โดย: นายประหยัดสุขอ้วน [IP: 182.232.80.xxx]
เมื่อ: 2021-07-28 13:35:39
นายประหยัดสุขอ้วน
#4 โดย: นายประหยัด [IP: 49.230.178.xxx]
เมื่อ: 2021-08-06 18:05:31
นายประหยัดอ้อนจั่น
#5 โดย: นายประหยัดสุขอ้วน [IP: 182.232.83.xxx]
เมื่อ: 2021-08-29 14:46:08
นายอ้อนจันทร์ประหยัดสุขอ้วน
#6 โดย: นายประหยัด [IP: 182.232.71.xxx]
เมื่อ: 2021-08-30 07:26:06
นายอ้อนพานิชประหยัด
#7 โดย: นายประหยัดสุขอ้วน [IP: 182.232.69.xxx]
เมื่อ: 2021-11-10 09:39:08
นายประหยัดสุขอ้วน789
#8 โดย: ประหยัดสุขอ้วน [IP: 124.122.14.xxx]
เมื่อ: 2021-11-30 14:23:54
นายประหยัดสุขอ้วนอ้อนจันทร์
#9 โดย: นายหัวจั่นฟ้า [IP: 49.230.123.xxx]
เมื่อ: 2022-06-29 23:22:58
นายประหยัดสุขอ้วน๗๘๙

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 1,934,981